Responsive image Responsive image

ทำไมปีใหม่ ต้องเลือกกิน ‘ข้าว’ ใหม่

26 มกราคม 2565

โบราณเขาให้กิน ‘ข้าวใหม่’ ช่วงปีใหม่ เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย ชีวิตจะได้มีแต่สิ่งใหม่ ๆ เข้ามา ทั้งยังเชื่อว่าเมื่อมอบข้าวให้ใครก็เหมือนมอบพลังชีวิตไปให้ด้วย นี่เป็นเหตุผลที่ช่วงปีใหม่ เรามักจะเห็นหลายคนมอบข้าวให้กันเป็นของขวัญ ไม่ว่าจะมอบให้กับคนที่รัก มอบข้าวใส่กระเช้า หรือกระทั่งซื้อข้าวเป็นของขวัญให้กับตัวเอง
 
นอกจากชื่อที่เป็นมงคลกับปีใหม่แล้ว ‘ข้าวใหม่’ ยังสัมพันธ์กับฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวของชาวนาทุกสิ้นปี ทำให้ข้าวใหม่ที่ได้ สด ใหม่ หอมนุ่มเป็นพิเศษ ยิ่งเป็นข้าวใหม่ที่ปลูกวิถีอินทรีย์ล่ะก็ พอนำไปหุงก็จะหอมฟุ้งไปทั่วบ้าน ลองไปดูกันว่านอกเหนือจากความเชื่อ มีเหตุผลอะไรที่สนับสนุนว่าเราควรกินข้าวใหม่ในช่วงปีใหม่อีกบ้าง?
 


สด เพราะเพิ่งเก็บเกี่ยวใน ‘ฤดูกาลใหม่’
 
ข้าวทุกชนิดจะมีฤดูกาลเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวทุกสิ้นปี เพื่อให้ข้าวเติบโตไปพร้อมธรรมชาติของฤดูกาล สัมพันธ์กับอากาศ แสงแดด ความชื้น และเพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ ชาวนาเลยมีทริกในการจำช่วงเวลาการทำนาไว้ว่า ‘หว่านวันแม่ เกี่ยววันพ่อ’
 
โดยส่วนมาก ฤดูกาลเพาะปลูกข้าวจะเริ่มในช่วงฤดูฝนชุ่มฉ่ำ เมื่อเข้าสู่ฤดูปลายฝนต้นหนาวหรือมีลมหนาวพัดมากระทบ ข้าวก็จะเริ่มออกรวงสวย ช่วงสิ้นปีทุ่งนาสีเขียวจะกลายเป็นสีเหลืองทองพร้อมเข้าฤดูกาลเก็บเกี่ยว ช่วงปีใหม่จึงเป็นช่วงที่แต่ละบ้านจะซื้อข้าวใหม่ของฤดูกาลมาตุนไว้ทานตลอดทั้งปีนั่นเอง
 
ใส เมล็ดข้าวใส เปี่ยมพลังชีวิตในวัน ‘เริ่มปีใหม่’
 
ข้าวที่เพิ่งผ่านการเก็บเกี่ยวแล้วนำมาขัดสี จะได้เมล็ดข้าวที่ขาวใสและมีจมูกข้าวติดอยู่ โดยจมูกข้าวเป็นส่วนประกอบจิ๋วที่อยู่ปลายเมล็ดข้าว ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้เมล็ดข้าวงอกกลายเป็นต้นอ่อนข้าวได้ จมูกข้าวจึงเป็นเหมือนจุดเติมพลังชีวิตให้ต้นอ่อนข้าวเติบโตเป็นต้นข้าวได้อย่างสมบูรณ์
 
ในจมูกข้าวมีคุณค่าทางอาหารสูงมาก ทั้งโปรตีน ไขมันไม่อิ่มตัว แร่ธาตุต่าง ๆ เช่น วิตามินบี วิตามินอี โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงที่ช่วยป้องกันความเสื่อมในร่างกายด้วย และด้วยขนาดที่เล็กมากทำให้จมูกข้าวมักหลุดออกไปเมื่อเข้าสู่กระบวนขัดสี ทำให้ข้าวซ้อมมือหรือข้าวกล้องมีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าข้าวขาวขัดสีนั่นเอง รู้อย่างนี้แล้ว ปีใหม่ปีนี้เลือกกินข้าวซ้อมมือขัดสีน้อยกันดีกว่านะ
 
หอม นุ่ม ละมุน ตามประสา ‘รสข้าวใหม่’
 
ความหอมนุ่มของข้าวจะเปลี่ยนแปลงไปตามอายุของข้าวเสมอ ดังนั้น รสสัมผัสของข้าวใหม่จึงต่างจากข้าวเก่า ความพิเศษของข้าวใหม่คือ หุงเมื่อไหร่ก็หอมฟุ้งไปทั่วบ้าน ยิ่งเป็นข้าวใหม่ที่ปลูกแบบอินทรีย์กลิ่นจะหอมชัดเจนกว่าข้าวที่ปลูกแบบเคมี (ที่ดมยังไงก็ไม่ได้กลิ่นข้าว) อีกทั้งข้าวใหม่ยังมียางข้าวที่นุ่มและเหนียวเต็มเมล็ดกว่าข้าวเก่า
 
บางคนอาจจะมองว่าข้าวใหม่ หุงแล้วมักแฉะ แต่ถ้านำมาหุงเป็นข้าวต้มหรือโจ๊ก จะได้รสสัมผัสนวล ๆ กลืนง่ายคล่องคอ หรือนำมาหุงเป็นข้าวสวย ลดปริมาณน้ำเล็กน้อย ก็จะได้ข้าวที่มีรสสัมผัสละมุนไปอีกแบบ ในขณะที่รสสัมผัสของข้าวเก่ามักเปลี่ยนไปเพราะผ่านลม ความชื้น ความร้อนมานาน ความหอมฟุ้งก็จะค่อย ๆ หายไป สีไม่ใสเหมือนเคย ยางข้าวน้อยลงทำให้แข็งกว่าข้าวใหม่
 
สุข ที่ได้ช่วยให้ชาวนาอินทรีย์มีกำลังใจ ‘ปลูกข้าวใหม่’
 
เป็นเวลากว่าหลายเดือนที่ชาวนาต้องลงแปลงนาไปดูแลข้าวให้เติบโตอย่างสมบูรณ์ ไม่ใช้สารเคมีใด ๆ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับคุณค่าเต็มเมล็ด แบบไม่มีสารตกค้างปะปนมาสู่ร่างกายคนกินอย่างเราด้วย ในช่วง ‘ฤดูข้าวใหม่’ จึงเป็นช่วงเวลาที่ชาวนารอคอย เพราะจะได้ส่งต่อข้าวใหม่หอมอร่อยที่พวกเขาลงแรงทั้งกายใจ ให้มาถึงมือคนกิน
 
ถ้าเราช่วยกันซื้อข้าวใหม่เยอะ ๆ ในช่วงปีใหม่ ก็จะกลายเป็นกำลังใจชั้นดีให้พี่ๆ ชาวนาอินทรีย์มั่นใจว่าจะไม่มีข้าวเหลือในสต็อก พร้อมลุยปลูกข้าวอินทรีย์ต่อไปในปีหน้า และถ้าเราหันมากินข้าวอินทรีย์กันเยอะขึ้น ชาวนาอินทรีย์ก็จะมีเยอะขึ้นตาม ส่วนผลพลอยได้ นอกจากเราจะได้กินข้าวอินทรีย์ แล้วยังได้ธรรมชาติแวดล้อมรอบ ๆ แปลงนาที่กลับมาดีขึ้น ชาวนาไม่เจ็บไม่ป่วย คนกินอิ่มท้อง ชาวนาอิ่มใจ ปลูกข้าวอินทรีย์ต่อไปได้อีกยาว ๆ
 
ส่งต่อพลังชีวิตดี ๆ ด้วยข้าวใหม่จากศาลานา
สั่งซื้อได้ที่นี่ www.salanashop.com



เรื่องที่น่าสนใจ

เคยเป็นเหมือนกันไหม จะหุงข้าวแต่ละทีแล้วไม่มั่นใจ ควรใส่น้ำแค่ไหน และใช้อะไรเป็นตัววัด ถึงจะได้ข้าวนุ่มสวยพร้อมกิน

สงสัยไหมว่าทำไมข้าวที่เรากิน ถึง ‘นุ่ม’ ไม่เท่ากัน

ข้าวแข็งไม่ชอบ ข้าวไม่หอมขอบาย มีรสสัมผัสของข้าวที่ใช่เป็นธงในการให้คะแนน กว่าจะกินข้าวได้สักจาน