Responsive image Responsive image

วิธีเลี้ยงลูกแบบใส่ใจธรรมชาติของเวิร์กกิ้งมัม ปราง-ปัญพร

10 สิงหาคม 2565

วิธีเลี้ยงลูกแบบใส่ใจธรรมชาติของเวิร์กกิ้งมัม ปราง-ปัญพร
 
เห็นหนุ่มน้อยจ้ำม่ำยิ้มเก่งที่ชื่อว่า Xzavier (เอ็กซ์ซาเวียร์) เป็นอันต้องกระซิบถามว่ามีเคล็ดลับในการเลี้ยงลูกยังไง ปรากฏว่าคำตอบที่เราได้นั้นเป็นอะไรที่เกี่ยวข้องคำว่า ‘ธรรมชาติ’ ทั้งนั้น เพราะคุณแม่ยังสาวคนนี้ เธอทั้งเลือกคลอดเองแบบธรรมชาติ พยายามเลือกอาหารที่เป็นธรรมชาติ ไปจนถึงเสื้อผ้าของใช้ เคล็ดลับสำคัญก็คือ เธอเลือกที่จะแฮปปี้กับการเลี้ยงลูกแบบไม่ฝืนตัวเองหรือเครียดจนเกินไป แต่ ‘ให้เป็นไปตามธรรมชาติ’ นั่นเอง
 
“เลี้ยงลูกในแบบของเราก็พอค่ะ ไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับใคร” ปราง-ปัญพร โปสรักขะกะ เวิร์กกิ้งมัมของหนูน้อยจ้ำม่ำวัยใกล้ขวบบอกเราอย่างนั้น
 
ท่ามกลางนิยามของคำว่า ‘แม่’ ที่ต้องการความสมบูรณ์แบบ และความกดดันจากสังคมยุคโซเชียลมีเดีย อาจจะทำให้คุณแม่ยุคใหม่เต็มไปด้วยความกังวลเมื่อมีลูกคนแรก แต่ไม่ใช่สำหรับปราง เธอยังบอกด้วยว่าชีวิตที่ต้องทำงานไปด้วย เลี้ยงลูกไปด้วย อาจจะทำให้ต้องใช้พลังมากกว่าเดิมสักหน่อย แต่การได้ใส่ใจดูแลหนูน้อยวัยก่อนตั้งไข่ด้วยตัวเองในทุก ๆ วัน นั้นแลกมาด้วยความภูมิใจ ความสบายใจ และมีความสุขกว่าการมีพี่เลี้ยงมาช่วยเป็นไหน ๆ
 
ลองอ่านบทสัมภาษณ์นี้ แล้วคุณจะรู้ว่า รอยยิ้มของหนูน้อยเอ็กซ์ซาเวียร์ที่แสนจับใจนั้นได้แต่ใดมา...
 


เลือกคลอดเองแบบธรรมชาติ

“เหตุผลที่เลือกคลอดแบบธรรมชาติ เพราะเราไม่อยากมีแผลเป็น ไม่อยากดมยา ไม่อยากบล็อกหลัง ไม่อยากให้มีสารเคมีเข้าร่างกาย พอเลือกแบบนี้ ก็ต้องวางแผนการกินตั้งแต่ตอนท้อง” คุณแม่ยังสาวเล่าย้อนไปถึงวันที่เธอบอกคุณหมอว่าตั้งใจจะคลอดลูกน้อยด้วยตัวเอง
 
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะเลือกวิธีคลอดได้แบบ 100% แต่ต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของร่างกายช่วงใกล้คลอดด้วย คุณปรางจึงต้องหาข้อมูลประกอบคำแนะนำจากคุณหมอ เธอต้องควบคุมน้ำหนักไม่ให้มากเกินไป จึงใส่ใจกับการคุมระดับน้ำตาลเป็นพิเศษ นอกจากออกกำลังกาย และเน้นกินอาหารที่ประโยชน์อย่างผักและปลา ยังต้องเอาจริงเอาจังกับการเลือกทานข้าวซ้อมมือที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ อุดมด้วยธาตุเหล็กที่ช่วยบำรุงครรภ์อีกด้วย (เธอยังเป็นแฟนพันธุ์แท้ของข้าวซ้อมมือศาลานาด้วยนะ)
 
“ด้วยความที่เราสนใจเรื่องออร์แกนิคอยู่แล้ว เวลาเลือกซื้อของเราก็จะเลือกดูที่ตรารับรองก่อนว่าสินค้าเป็น organic หรือ natural หรือเปล่า อีกอย่างคือคุณแม่ของปรางเคยเป็นมะเร็งมาก่อน ทำให้ตอนนี้ท่านหันมาทานมังสวิรัติ ก็ยิ่งทำให้ครอบครัวเราใส่ใจเรื่องการเลือกอาหารมากๆ ทุกอย่างที่เข้าร่างกายเรา เราจะเลือกสิ่งที่มันดี ไม่มีสารเคมี เพื่อให้โรคไม่ถามหา พอเรามีลูก เราก็อยากให้ลูกทานสิ่งที่ดีเหมือนกัน” คุณแม่ยังสาวเสริมว่า พอใส่ใจตัวเองจนเป็นนิสัย ช่วงตั้งท้อง เธอจึงแข็งแรงและใช้ชีวิตทำสิ่งต่าง ๆ ได้เหมือนปกติเลยล่ะ
 


เลือกทุกอย่างที่ออร์แกนิคให้ลูก
 
“ปรางโชคดีมากที่ได้คลอดน้องเอง ตอนที่เห็นเขาครั้งแรกก็ตื่นเต้น น้ำตาไหล เขาร้องเสียงดังเลยนะ ตอนที่พยาบาลอุ้มเขาไปตรวจร่างกายหลังคลอด สิ่งที่เรากังวลที่สุดคือเขาปลอดภัยดีไหม มีอะไรที่ผิดปกติไหม ไม่ได้สนใจเรื่องหน้าตาเลยว่าจะเหมือนพ่อหรือเหมือนแม่ พอพยาบาลอุ้มกลับมาให้ทานนมแม่ เขาก็ทำได้เองเลยโดยไม่ต้องฝึก มันเป็นอะไรที่มาจากสัญชาตญาณจริง ๆ ของแม่ลูก เรารู้สึกว่ามันมหัศจรรย์ อาจจะเป็นเพราะว่า ตอนที่เราท้องเราก็ดูแล กินอาหารที่ดี ออกมาเขาก็แข็งแรงดีเลย” คุณปรางเล่าถึงโมเมนต์ประทับใจในห้องคลอด
 
“ถ้าช่วงแรกเกิดถึง 6 เดือน ปรางให้น้องทานนมแม่อย่างเดียว เราเองก็ต้องทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อลูกด้วย นอกจากทานวิตามินที่หมอเสริมให้ เราก็เลือกกินผักและข้าวที่มีวิตามินด้วย ทำให้นมของเราข้นมาก หมอยังบอกว่าอย่างนี้คือนมคุณภาพดีมากนะ พอน้องเริ่มโตถึง 6 เดือน เริ่มทานมื้อแรกได้ เราก็เลือกผักที่เป็นออร์แกนิค ข้าวก็ต้องออร์แกนิค เราเลือกศาลานาเพราะเรามั่นใจว่าออร์แกนิคจริง ๆ แม้กระทั่งของใช้ก็ต้องออร์แกนิค ขนาดเสื้อผ้าน้อง เพื่อน ๆ ที่ซื้อมาให้ ยังรู้เลยว่าต้องเลือกผ้าคอตตอนออร์แกนิคให้เราเลย”
 
พอคลอดน้องเสร็จ คุณปรางก็ไม่ทิ้งฟอร์มเวิร์กกิ้งมัม เธอเป็นคุณแม่ยังสาวที่กลับมารักษาหุ่น ฟิตออกกำลังกายและควบคุมปริมาณอาหารต่อเนื่อง จนกลับมาใส่ชุดทำงานตัวเดิมได้สบาย ๆ 
 
“ทุกวันนี้เวลาเขากินของอร่อย มีความสุข เขาจะตบโต๊ะแล้วยิ้ม เวลาไปไหนคนชอบมาถามว่าคุณแม่ให้ทานอะไร จริง ๆ แค่นมแม่ แล้วก็เสริมข้าวที่ดีเท่านั้นเอง กล้าการันตีเพราะบ้านเราก็กินกันจริง ๆ เราก็กล้าแนะนำต่อ”
 


เลือกเป็นเวิร์กกิ้งมัมที่เลี้ยงลูกเอง
 
“เราอยากทำอาหารให้ลูกกินเอง ทั้งสัญชาตญาณความเป็นแม่ ทั้งเรื่องความปลอดภัย อะไรที่ช่วยย่นเวลาให้เรา และมั่นใจว่าดีด้วย เราก็เลือกของพวกนั้น”
 
หลังคลอดน้องไม่นาน คุณปรางก็กลับไปทำงาน  ตามปกติ แต่เพราะเป็นช่วงที่ต้องทำงานแบบเวิร์กฟรอมโฮมพอดี ทำให้เธอได้มีเวลาอยู่กับช่วงแรกของน้องเอ็กซ์ซาเวียร์ได้ทั้งวัน
 
“ปรางเป็นคนทำงานก็ค่อนข้างหนัก พอมีลูก เราก็ต้องแบ่งเวลาให้ได้ ตื่นมาตอนเช้าก็จะดูแลเขาก่อน แล้วก็ค่อยทำงาน ส่งต่อให้คุณยายช่วยดู แต่บางทีเขาก็มาอยู่ข้าง ๆ คอยให้กำลังใจ อยู่ในสายตา กลางวันก็ทานข้าว แล้วก็ทำงานต่อ ตอนเย็นเราก็ชวนกันออกไปเดินออกกำลังกาย เข็นรถพาเขาไปสูดอากาศบริสุทธิ์
 
“เรื่องกินสำคัญมาก วัยแบบนี้เราอยากให้ลูกเราสุขภาพแข็งแรง กินอิ่ม อารมณ์ดี มีความสุขก็พอ ซึ่งตอนเช้าเรามีเวลาแค่สั้น ๆ ครึ่งชั่วโมง เตรียมข้าวให้น้อง แค่เติมผัก เนื้อสัตว์นิดหน่อย เพราะได้ข้าวซ้อมมือที่คุณประโชยน์หลากหลายอยู่แล้ว



เลือกเป็นแม่ที่มีความสุข

 
นอกจากเลี้ยงลูกให้มีความสุขแล้ว คำถามสำคัญที่คุณแม่ยุคใหม่หลายคนน่าจะอยากรู้ก็คือ แล้วเราจะเลี้ยงลูกยังไงให้เป็นแม่ที่มีความสุขด้วย 
 
“ข้อแรกเลย คือห้ามไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ปรางเลี้ยงลูกในแบบของเรา ด้วยความที่เป็นลูกคนแรกก็เคยพลาดเหมือนกัน เคยคิดว่าเราต้องซื้อสิ่งที่ดีที่สุด แพงที่สุด แล้วลูกจะมีความสุข แต่จริง ๆ คือไม่ใช่ บางทีเด็กเขาเอ็นจอยกับสิ่งเล็ก ๆ อย่างแค่ ฝาขวดน้ำ เขาชอบมากกว่าของเล่นแพง ๆ อีก ปรางเลยคิดได้ว่าแม่ไม่ควรไปเปรียบเทียบว่าคนอื่นเขามีอะไร เราก็เลี้ยงให้เป็นธรรมชาติที่สุด
 
“คุณแม่บางคนเป็นทุกข์ เปลี่ยนพี่เลี้ยงเป็นสิบคน เพราะมีแพตเทิร์นว่าเด็กต้องทำอะไร เวลากี่โมง บางทีเขานอนดึกไปนิดนึง เขางอแง เขาไม่อึทุกเช้า ก็ไม่ต้องไปเข้มงวด อย่าไปตั้งกฎเกณฑ์กับการเลี้ยงลูกมากเกินไป เอาจริง ๆ แค่ทำงานเราก็เครียดอยู่แล้ว เราก็อย่ามากดดันตัวเองเวลาเลี้ยงลูกอีกเลย
 
“หลักง่าย ๆ ของปราง คือแค่เน้นให้เวลากับลูกก็พอ เมื่อไหร่ที่มีเวลาละจากหน้าคอมฯ ได้ ก็มาเล่นกับเขา อุ้มเขา ทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง บางทีติดพันประชุมเยอะๆ เราก็เห็นว่าเขามองเราทำงานอยู่นะ เขาเห็นว่าเราพูดกับหน้าจอ ทำไมไม่มาสนใจเขา ถึงเขาจะยังพูดไม่ได้ แต่เขารู้นะ”
 
คุณปรางบอกว่าคุณแม่ทุกคนไม่มีใครเป็นแม่ที่เพอร์เฟกต์ได้ เธอเองก็เช่นกัน ที่ยังต้องค่อย ๆ เรียนรู้และปรับตัวไป สำหรับเธอ แม้จะเหนื่อยเป็นสองเท่าเพราะต้องทำงานไปด้วย แต่การได้เลี้ยงลูกด้วยตัวเองมันก็เป็นโบนัสของคนเป็นแม่เช่นกัน
 
“เหนื่อยนะเพราะเราไม่มีพี่เลี้ยง ทั้งเรื่องโควิด แต่โชคดีที่มีคุณยายช่วยเลี้ยงตอนที่เราทำงาน ถ้าเราช่วยกันเลี้ยงได้เองก็ดีกว่า เหนื่อยอีกแป๊บเดียว เดี๋ยวเขาก็ทำอะไรได้เองแล้ว มีแค่ช่วงนี้ที่เราต้องทำอะไรให้เขา ที่เราได้ดูแลเขาแบบใกล้ชิด เพราะหนึ่งวันสำหรับเด็กผ่านไปเร็วมาก เรายอมเหนื่อยนิดนึง แต่เราได้ quality time กับเขา มันก็เป็นการยอมเหนื่อยที่คุ้มค่า” เวิร์กกิ้งมัมของเรา ทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้ม
 
---
สั่งซื้อข้าวออร์แกนิคจากศาลานาได้ที่ www.salanashop.com



เรื่องที่น่าสนใจ

วิทยาศาสตร์ว่าด้วย ‘ความอร่อย’ ของข้าว ที่คนกินไม่เคยรู้

Put the RICE menu to the RIGHT mom คนกำลังท้องกำลังไส้ เลือกกินข้าวอย่างไร ให้เหมาะกับระยะครรภ์

“ผมมองว่า คนเราก็เหมือนกับไม้เก่า ถึงบางส่วนจะผุไปตามเวลา แต่ยังมีแก่นที่แข็งแรงอยู่ภายใน ผมจึงไม่เคยคิดเรื่องเกษียณเลย”

ทั้งที่อยู่บ้านเดียวกันแท้ ๆ แต่ยังเหมือนมีช่องว่างระหว่างกัน ไม่รู้จะคุยอะไรด้วยดี เรามีกิจกรรมกระชับมิตรระหว่าง ปู่ย่าตายาย-พ่อแม่-ลูกหลาน มาแนะนำให้!

ข้าวผัดบะจ่าง สูตรนี้รักสุขภาพ ต้อนรับวันไหว้บะจ่างด้วยสูตรข้าวผัดง่าย ๆ ที่ทำเองได้ที่บ้าน